สอนเทรดหุ้น เชียงใหม่ ออนไลน์ สอนเล่นหุ้น เชียงใหม่ ออนไลน์

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561

วิธีพัฒนาตนเอง ด้านการใช้งาน candle stick + แสกนฟรี ไม่เสียเงิน



โลกนี้มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับ candle stick pattern มากมาย แต่สาระสำคัญที่ต้องทราบเกี่ยวกับการศึกษา candle stick pattern มีดังต่อไปนี้ กล่าวคือ ถ้าจะเทรดโดยใช้ candle stick ต้องทราบเรื่องสำคัญเหล่านี้เสียก่อน


1. ต้องทราบว่า candle stick มันไม่ได้มีรูปแบบกลับตัว (reversal pattern) อย่างเดียว แต่มันยังมีรูปแบบต่อเนื่อง (continuation pattern) อีกด้วย
////////////////////////////////

2. candle stick มีหลายร้อย หลายพัน pattern ซึ่งเกินครึ่ง แทบไม่ต่างจากการโยนเหรียญ ซึ่งรูปแบบของ pattern เหล่านี้ หาดูได้จากหนังสือ
Encyclopedia of CandlestickCharts ของ ThomasBulkowski
//////////////////////////////////////////////
3. นอกจากนี้ ยังต้องทราบอีกด้วยว่า แล้วจากหลายร้อย หลายพันรูปแบบของ candle stick price pattern นั้น มีงานวิจัยใดบ้าง หรือ เกิดจากการสังเกตุนับหมื่นนับแสนครั้ง จนมาจัดลำดับได้ ว่า pattern ใด ยังพอจะมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ดูได้จาก เว็บไซด์ของ Bulkowski's ได้ จาก link นี้

 
เพิ่มคำอธิบายภาพ
 ////////////////////////////////////


4. วิจัยที่เกี่ยวกับ candle stick มี paper ชื่อ Market Timing with Candlestick Technical Analysis

โดย Marshall, Ben R. and Young, Martin R. and Rose, Lawrence C. จาก Massey University - School of Economics and Finance สามารถ d/l มาอ่านได้ที่ https://ssrn.com/abstract=980583 แล้วจะเห็นว่า มีเกิน 80% ของ pattern ที่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติเลย เจอไปก็เท่านั้น ไม่ต้องสนใจ ไม่ต่างอะไรจากการโยนเหรียญ

เพิ่มคำอธิบายภาพ



 5. งานวิจัยไทยคร่าว ๆ ก็พอมี ของคุณมด แมงเม่าคลับ เข้าอ่านได้ที่ http://mangmaoclub.com/candlestick-accuracy/ 

ซึ่งจะออกมาหลาย ๆ กับหลายสำนัก นั่นคือ price pattern แท่งเทียนส่วนมาก ไม่ต่างอะไรจากการโยนเหรียญ แถมบางทีอาจแย่กว่าการโยนเหรียญเสียด้วยซ้ำ

บทความของคุณมด mangmao club เรื่องการทดสอบแท่งเทียน
//////////////////////////////////////////

6.ดังนั้น แท่งเทียนจะเชื่อถือได้ว่ามีการกลับตัว, จะเชื่อถือได้ว่าจะดำเนินต่อไป ผู้ใช้ต้องเข้าใจหลักของ trend ด้วย ว่ามันเพิ่งเกิด หรือเกิดมาจะอ่อนแรงแล้วและต้องทราบด้วยอีกว่า   
 

การเกิด bullish bearish divergence นั้น การใช้ candle stick pattern ร่วมกับ rsi อย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้ trendline มาช่วย confirm ด้วย (จากหนังสือวิ่งไปให้สุดเทรนด์)

   โอเค จะเห็นได้ว่า ศาสตร์แท่งเทียน ถ้าศึกษาไม่ลึก มันก็ไม่ต่างอะไรจากการมโน

    เมื่อศึกษาแนวคิดจาก resource ต่าง ๆ ที่ให้ไปด้านบนแล้ว ก่อนจะใช้เครื่องมือนี้ ต้องตอบให้ได้ว่า
  1. candle stick pattern ที่มีความสำคัญ และยังพอไว้ใจได้อยู่ (ซึ่งมีน้อยนิด จากร้อย จากพัน แพทเทริ์น)
  2. ควรจะใช้ candle stick pattern นั้นเวลาใด ตอนนั้น ใกล้จบเทรนด์หรือยัง ตอนนี้ เพิ่งเริ่มเทรนด์ เพราะตำแหน่งต่าง ๆ ของเทรนด์ ก็ใช้กับ candle stick pattern ต่างกัน
   

  ทีนี้ เมื่อเข้าใจเรื่องแท่งเทียนแล้ว ก็ทำการแสกนกันได้ ซึ่งต้องใช้ 2 สิ่งสำคัญ คือ
   1. โปรแกรม efin stock pickup ซึ่งสำคัญมาก ๆ ถ้าท่านใดต้องการ self study ให้เข้าใน link นี้ 
  ที่จะบอกทุกแง่มุมของ efin stock pickup http://supapongnilket.blogspot.com/2017/07/efin-stock-pickup.html
   2. เว็บไซด์ที่แนะนำ จะเป็นเว็บฟรี คือ investing.com ซึ่งสามารถทำความเข้าใจในคำสั่งต่าง ๆ ได้ตามภาพ




(1/6) เข้า investing.com แล้ว log in แล้วไปที่ Tools >> Stock Screener

(2/6)เปลี่ยนจาก United States เป็น Thailand


(3/6) กดที่ Candlestick Patterns แล้วรอหน้าจอ reload ราว 5-10 วินาที

(4/6) จะเห็นว่า เว็บจะแบ่งเป็น patterns ที่กำลังก่อตัว และ patterns ที่ก่อตัวเสร็จแล้ว 

(5/6) pattern แท่งเทียนต่าง ๆ ถ้าอยากเห็นก็กดเพื่อดูคำอธิบายได้ แถมยังมีจำนวนดาว 
เพื่อเช็คความน่าเชื่อถือของ pattern นั้นอีกด้วย 


(6/6) พอเอามาเปรียบเทียบกับ price pattern ในโปรแกรม efin stock pickup ปรากฏว่า ก็เหมือน
หรือ ใกล้เคียง กับที่เว็บไซด์ investing.com บอกจริง ๆ
 


สุดท้ายนี้ ขอให้กราฟแท่งเทียน ให้เป็นเทียนสมชื่อ ส่องสว่างเข้าไปในใจนักลงทุน หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ไม่เทรดแบบนโม อีกต่อไป


ผู้เขียนบทความ : สุภาพงษ์ นิลเกษ
- เจ้าของสถาบัน ABL สอนเทรดหุ้น มือใหม่ มือโปร
- นักเขียน Best Seller หนังสือ "หุ้นพลิกชีวิต" สนพ. ซีเอ็ด
- นักเขียน Best Seller หนังสือ "วิ่งไปให้สุดเทรนด์" สนพ. ซีเอ็ด
=======
ท่านสามารถติดตามบทความอื่น ๆ ด้านการพัฒนาตนเอง, การเป็นเทรดเดอร์ที่ดี ของ blog นี้ได้ที่
http://supapongnilket.blogspot.com/2017/11/blog-post.html 

 


 



















f







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น